Freehold vs Leasehold คืออะไร? ต่างกันอย่างไร?

ใครที่สนใจเรื่องของการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ คงจะได้ยินคำว่า ‘Freehold’ และ ‘Leasehold’ กันมาบ้าง แต่สำหรับ 2 คำนี้มีความหมายและเกี่ยวข้องกันยังไงกับการลงทุนอสังหาฯ ควรที่จะเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับคุณ
วันนี้ IQI Thailand จะมาสรุปความหมายและความแตกต่างของทั้ง 2 คำนี้กันค่ะ

Freehold คือ การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อสังหาฯนั้นอย่างสมบูรณ์ หรือ การซื้ออสังหาฯแบบขายขาด มีโอกาสกู้กับธนาคารได้วงเงินสูงสุด 100% และผู้ซื้อจะได้รับสิทธิ์การครอบครองอย่างเต็มตัว สามารถที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงสามารถสร้างกำไรจาก ‘การปล่อยเช่า’ ได้
อีกทั้งผู้ซื้อมีสิทธิที่จะได้ค่าชดเชยตามสัดส่วนเมื่อได้รับความเสียหายการเกิดภัยพิบัติต่างๆ หรือถูกเวนคืนขายที่ดิน

Leasehold คือ การเช่าถือครองอสังหาฯแบบระยะยาว หรือเรียกอีกอย่างคือ การเซ้งเพื่อลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจะเป็นการเช่าระยะยาว (ไม่เกิน 30 ปี) แต่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของที่นั้นๆ เมื่อหมดสัญญาก็สามารถต่อสัญญา หรือ ไม่ต่อสัญญา ก็ได้ขึ้นอยู่กับการตกลงและเงื่อนไขของแต่ละที่ โดยส่วนใหญ่ราคาจะต่ำกว่าโครงการแบบ Freehold ในทำเลเดียวกัน แต่อาจจะมีความเสี่ยงด้านการไม่มีสิทธิ์ได้ค่าชดเชยในส่วนของที่ดินและอาคาร หากเกิดการชำรุดเสียหายจากภัยพิบัติ หรือถูกเวนคืนที่ในช่วงที่ยังติดสัญญาเช่า

ความแตกต่างระหว่าง Freehold และ Leasehold
กรรมสิทธิ์การถือครอง

Freehold ผู้ซื้อสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมได้อย่างเต็มตัวและมีสิทธิ์ได้ค่าชดเชยตามสัดส่วนในโฉนดที่ดิน หากเกิดการชำรุดเสียหายจากภัยพิบัติหรือถูกเวนคืน

Leasehold สถานะ ‘ผู้เช่า’ ไม่สามารถเป็ยเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม ได้สิทธิ์เพียงกรรสิทธิ์ในห้องชุดตามระยะเวลาในสัญญาเช่าเท่านั้น หากเกิดการชำรุดเสียหายจากภัยพิบัติ หรือถูกเวนคืนจะได้รับค่าชดเชยตามระยะเวลาสัญญาเช่าที่เหลือเท่านั้น

ระยะเวลาการถือครอง

Freehold มีสิทธิ์ถือครองได้ตลอดไป จนกว่าจะมีการขายหรือส่งต่อเป็นมรดกให้ผู้สืบทอด

Leasehold มีสิทธิ์ถือครองได้ช่วงระยะเวลาตามสัญญา

การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าทรัพย์สิน

Freehold มูลค่าทรัพย์สินมีการปรับเพิ่มขึ้น หรือที่เรียกว่า ยิ่งถือยาวก็จะยิ่งได้ผลตอบแทนมากขึ้น

Leasehold มีความเสี่ยงที่มูลค่าจะแปรผกผัน ขึ้นหรือลง ตามระยะเวลาในการถือครองที่เหลืออยู่ หรือเมื่อสัญญาสิทธิ์การถือครองหมดลงมูลค่าทรัพย์สินที่เคยได้ก็หมดลงเช่นกัน

เหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบไหน

Freehold จะเหมาะกับคนที่ชอบไลฟ์สไตล์แบบมีพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก ตั้งอยู่ในทำเลที่ง่ายต่อการเดินทาง หรือ นักลงทุนที่อยากจะปล่อยเช่าทำกำไร หรือต้องการที่จะถือครองกรรมสิทธิ์ไว้สำหรับเป็นมรดกให้ลูกหลานต่อไป

Leasehold เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอาศัยเพียงช่วงระยะสั้น อาจจะมีการวางแผนจะสร้างบ้านเอง หรือสำหรับผู้ที่ต้องการปล่อยเช่าแต่ไม่ต้องการจัดการหรือถือครองกรรมสิทธิ์ตลอดไป โดยต้องการทำกำไรเพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้หลักการลงทุนในทรัพย์สิน ผู้ที่ลงทุนย่อมคาดหวังเรื่องผลตอบแทน ผู้สนใจควรจะต้องศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบ และ ทำความเข้าใจในข้อมูลให้เพียงพอก่อนเพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองค่ะ