7 เคล็ดลับ การปิดการขายทางโทรศัพท์

รู้หรือไม่? การยิ้มระหว่างกำลังคุยโทรศัพท์จะช่วยให้ผู้ที่กำลังคุยกับคุณ หรือ มีแนวโน้มที่จะเป็นลูกค้าของคุณรู้สึกสบายใจมากขึ้น การจะโทรศัพท์เพื่อดิลปิดการขายสินค้าสักชิ้น คุณจะรู้สึกว่ามีแรงกดดันอย่างมาก แต่! อย่าเพิ่งตระหนกไป

วันนี้ IQI Thailand มี 7 เคล็ดลับในการปิดการขายทางโทรศัพท์ ใครที่ยังกังวลใจ หรือ กดดัน สามารถเอา 7 ข้อนี้ไปลองปรับใช้กันได้เลย

1) วางแผน, เตรียมพร้อมก่อนกดโทรหาลูกค้า

สร้างความมั่นใจให้ตัวคุณเองก่อนจะกดโทรศัพท์หาลูกค้า คุณควรที่จะวางแผน, เตรียมตัวเพื่อให้การสนทนาเป็นไปได้อย่างราบรื่น เตรียมข้อมูลรายละเอียดสินค้าและบริการของคุณให้พร้อม รวมไปถึงคาดการณ์คำถามและคำตอบที่ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะถาม อย่ากลัวที่จะสนทนาหลังจากกล่าวคำทักทายของคุณไปแล้ว
พยายาม ‘ปลดล็อคข้อสงสัย’ ของลูกค้า และ หาวิธีดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพราะทั้งโอกาสและเวลาของคุณมีค่า

2) เปิดโอกาสและมีช่องว่างให้ลูกค้าพูด

นักขายบางคนต้องการปิดการขายให้ดีที่สุด โดยเริ่มขายตั้งแต่ลูกค้ากดรับโทรศัพท์ หรือ บางคนอ่านขายตามสคริปต์โดยไม่เว้นช่องว่างให้ลูกค้าได้พูด แบบนี้ลูกค้าจะรู้สึกไม่มั่นใจและมองว่าคุณกำลังจะเข้ามาหลอก แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ลองเปลี่ยนแบบนี้ดูค่ะ อันดับแรกแนะนำตัวคุณเองด้วยคำพูดที่สุภาพ พูดคุยอย่างใจเย็นเพื่อสร้างความเป็นกันเอง ตามด้วยเรื่องที่ต้องการติดต่อ แต่ลักษณะการพูดจะต้องไม่ดูรุกจนเกินไป เว้นช่วงให้ลูกค้าได้พูด หากลูกค้ามีคำถามก็ควรตอบอย่างมั่นใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งตัวคุณและเปิดใจรับฟังอย่างเต็มใจนั่นเองค่ะ

3) สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า

สิ่งสำคัญที่สุดของการเสนอขายสินค้าสักชิ้น คือ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า
การโทรศัพท์เราไม่สามารถทราบได้เลยว่าลูกค้ามีสีหน้า อารมณ์ตอนนั้นเป็นยังไง ดังนั้นจึงต้องให้ความใส่ใจและใจเย็น ค่อยๆสังเกตน้ำเสียงและอารมณ์ของลูกค้าและเลือกใช้คำถามที่จะสามารถพิจารณาถึงความต้องการของลูกค้าได้ เพื่อให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนวิธีนำการเสนอขายให้เหมาะกับอารมณ์ความรู้สึกของลูกค้าในขณะนั้นค่ะ

4) การเสนอข้อมูลสินค้าและบริการ

เมื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าได้แล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนของการขายได้เลยค่ะ เลือกจังหวะที่ลูกค้าพร้อมที่จะรับข้อมูล การเสนอขายควรพูดถึงรายละเอียดที่สำคัญของสินค้าและบริการของคุณแบบรวบรัดและกระชับที่สุด ที่สำคัญควรเน้นในประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ หากลูกค้ายังมีความลังเลหรือยังไม่ตัดสินใจ อาจจะลองพยายามพูดคุยถึงปัญหา หรือ ความต้องการของลูกค้า เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการมากขึ้นค่ะ

5) อย่าเพิ่งตกใจ! หากยังให้คำตอบไม่ได้

เมื่อเจอปัญหาแล้วไม่พยายามแก้ไขปัญหา อันนี้ก็ฟังดูแย่ใช่ไหมคะ เมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่ใจคำตอบ หรือ ยังไม่ชำนาญกับสินค้าและบริการ สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดเลยคือ ‘การมั่วข้อมูล’ นักขายบางคนเลือกที่จะตอบมั่วไปก่อนดีกว่าตอบไม่ได้ แต่หากลูกค้ามาทราบข้อมูลถูกต้องที่หลังแบบนี้น่าจะดูแย่กว่านะคะ สิ่งที่ควรจะทำคือ ยอมรับตามจริงว่ายังไม่ชัวร์ข้อมูล 100% และขออภัย รับปากจะทำการบ้านแล้วแจ้งกลับให้เร็วที่สุด เคล็ดลับคือยิ่งคุณแจ้งกลับเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีค่ะ

6) อย่าลืมยิ้ม

คุณรู้หรือไหมคะว่าการยิ้มระหว่างคุยโทรศัพท์จะช่วยให้ผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณรู้สึกสบายใจมากขึ้น เพราะการยิ้มขณะพูดจะทำให้เรามีน้ำเสียงที่น่าฟัง และลูกค้าจะต้องรับรู้ความเป็นมิตรของคุณได้แน่นอนค่ะ

7) ก่อนที่จะวางสาย

ก่อนจะวางสายหากทิ้งความสงสัยและงุนงงไว้กับลูกค้าของคุณก็ไม่ใช่เรื่องดี ดังนั้นก่อนจะวางสายคุณควรแสดงความเป็นมืออาชีพ โดยการสรุปการสนทนาทั้งหมด เพิ่มเติมด้วยการเช็คให้แน่ใจว่าลูกค้าติดปัญหาหรือมีข้อข้องใจในส่วนใดหรือไม่ เพื่อสร้างความพึงพอใจในการสนทนาระหว่างคุณกับลูกค้าในครั้งนี้ แถมยังมีโอกาสที่จะได้ฐานลูกค้ามากขึ้นจากการบอกต่ออีกด้วยค่ะ

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปิดการขายแบบต่อหน้าหรือบนโทรศัพท์ หัวใจหลักของการขายก็ยังคงเหมือนเดิม…ความต้องการของลูกค้าต้องมาก่อน ยิ่งในยุคสมัยนี้ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เยอะได้เร็ว ความท้าทายของการขายคือ ‘การนำเสนอ’ ให้ตรงความต้องการของลูกค้า ยิ่งเราสามารถบริการหรือนำเสนอให้ถูกความต้องการมากเท่าไร โอกาสที่เราจะปิดการขายได้ก็มีเยอะขึ้นเท่านั้น